หน้าร้อนนี้ต้องรู้ไว้..กับวิธีล้างแอร์ที่ถูกต้องที่จะช่วยให้แอร์ของคุณใช้งานไปได้นานแสนนาน

ในสภาพอาการประเทศไทยที่ร้อนอบอ้าวด้วยอุณหภูมิที่สุดปรี๊ดแบบนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับคามนิยมในการคลายร้อนจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากแอร์นั่นเอง แอร์หรือเครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เข้ามาช่วยเพิ่มความเย็นให้กับห้องของเรา โดยขนาดของแอร์ก็จะแตกต่างกันไปตามขนาดของห้อง อย่างห้องที่มีขนาดเล็กก็สามารถเลือกใช้แอร์ที่มีขนาดของ BTU (British Thermal Unit) หรือกำลังที่ใช้วัดกับปริมาณความร้อนของเครื่องปรับอากาศที่มีค่าต่ำกว่าห้องที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ ซึ่งสำหรับบ้านไหนที่ติดแอร์นั้นก็ควรที่จะคอยตรวจสอบสภาพการทำงานของแอร์ของเสมอด้วย เพราะแอร์ก็ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่งมีการสึกหรอหรือเสื่อมสภาพได้เช่นเดียวกัน และที่สำคัญก็คือต้องมีวิธีล้างแอร์ที่ถูกต้องด้วย เพื่อที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

การล้างแอร์บ้านนั้นควรให้มีการล้างในทุก ๆ 6 เดือน ยิ่งในกรณีที่มีการเปิดใช้แอร์บ่อยหรือเปิดทุกวัน เพราะโดยปกติแล้วเมื่อผ่านไปสัก 5-6 เดือนตัวกรองฝุ่นหรือพัดลมแอร์มักจะมีฝุ่นหรือเศษผงต่าง ๆ เข้ามาเกาะเต็มไปหมด โดยเฉพาะหากมีการใช้แอร์ในห้องที่ค่อนข้างมีฝุ่นมาก หรืออยู่ในสถานที่ที่ทึบและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ง่าย ทำให้พอเราเปิดแอร์ไปได้สักระยะหนึ่งจะมีความรู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นเหมือนตอนติดตั้งใหม่ ๆ หรือการทำงานของแอร์ดูผิดปกติไป เช่นแอร์มีน้ำหยดหรือมีเสียงดัง เป็นต้น เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำการดูแลรักษาแอร์ที่บ้านที่คุณก็สามารถทำเองได้

วิธีตรวจสอบแอร์และล้างแอร์ด้วยตัวเอง

อันดับแรก ให้เราลองสังเกตดูว่าแอร์ที่บ้านของเรานั้นมีการทำงานที่เป็นปกติหรือไม่ เช่น มีเสียงดังจากที่ไม่เคยมีหรือเปล่า หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาจากช่องแอร์หรือไม่ หรือแอร์ที่เปิดนั้นเย็นน้อยลงกว่าเดิมหรือเปล่า เป็นต้น เพราะหากพบอาการเหล่านี้ ก็จะเป็นการเตือนเราว่าได้เวลาในการเช็คสภาพและจัดการล้างแอร์แล้วนั่นเอง

การล้างแอร์ด้วยตัวเองสามารถทำได้ง่าย ๆ เริ่มจากการตัดระบบไฟที่เข้าเครื่องให้หมดก่อน จากนั้นทำการถอดหน้ากากแอร์ออก เพื่อที่จะได้นำแผ่นกรองฝุ่นหรือไส้กรองต่าง ๆ ที่อยู่ด้านในออกมาทำความสะอาด โดยในการทำความสำอาดนั้นก็สามารถนำกระดาษทิชชู่มาเช็ดฝุ่นที่เปื้อนอยู่ให้ออกก่อน หรืออาจจะใช้เป็นผ้าชุบน้ำยาเดทตอลมาเช็ดเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค

หลังจากเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว หากยังมีเศษฝุ่นที่ตกค้างอยู่ ก็อาจจะนำมาล้างต่อด้วยน้ำสะอาดแล้วน้ำไปตากแดดให้แห้งสนิท โดยในการชำระล้างนั้นอาจจะหาหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากซักได้มาใส่ปิดปากปิดจมูกไว้ เพื่อกันฝุ่นฟุ้งกระจายตอนฉีดน้ำชะระล้างด้วยก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยและสุขลักษณะที่ดีนั่นเอง นอกจากนั้นก็ให้หาผ้าสะอาดหรืออาจจะใช้เป็นแปรงเล็ก ๆ มาขัดทำความสะอาดตรงด้านในของตัวแอร์ด้วยก็ได้เพื่อช่วยให้ภายในตัวเครื่องนั้นสะอาดไม่มีสิ่งอุดตันและทำงานได้ดีขึ้น

นอกจากนี้แล้วก็ควรตรวจสอบดูระบบไฟและการทำงานของรีโมทแอร์ต่าง ๆ ด้วยว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ แต่หากพบว่าเมื่อล้างแอร์บ้านตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วแต่แอร์ยังมีปัญหาอยู่ ก็ลองปรึกษาช่างที่มีความรู้โดยตรงดู เพราะเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดปัญหามาจากสาเหตุอื่น ๆ ได้เช่น น้ำยาแอร์หมด หรือระบบการทำงานภายในตัวเครื่องมีปัญหา เป็นต้น เห็นไหมว่าเพียงหมั่นตรวจสอบและล้างแอร์ตามกำหนด เท่านี้คุณก็จะได้รู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและสามารถป้องกันการเสื่อมสภาพก่อนเวลา ตลอดจนช่วยยืดอายุการใช้งานแอร์ของคุณไปได้นานแสนนานแล้ว

ช้อปแบรนด์ดังปังกว่าครั้งไหนๆ ที่ 6.6 Brands Festival ตั้งแต่ 5 พฤษาคม – 6 มิถุนายนนี้! รวมดีลเด็ดไอเท็มฮอตจากแบรนด์ชั้นนำลดสนั่นทุกเที่ยงคืนกับ Midnight Brands Flash Sale แจกโค้ดส่วนลดปังๆ มูลค่า 1,000 บาททุกวัน! มาพร้อมโปรโมชั่นลดแรงเกินต้านจากหลากหลายหมวดหมู่ยอดนิยมที่คุณไม่ควรพลาด รับ Coin Cashback สูงสุด 3,000 Coins เมื่อซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ครบ 3,000 บาท! ซื้อ 1 แถม 1 สินค้าแม่และเด็ก และสินค้าความงามไอเท็มฮอต อัพเดทไอเท็มใหม่ๆ ทุกวัน! ช้อปของกินและของใช้ในบ้านกับ Shopee Mart ราคาไม่เกิน 99.- พร้อมส่งฟรีถึงบ้านขั้นต่ำ 0 บาท! และสินค้าแฟชั่นลดปังๆ สูงสุดถึง 50%!