เชื่อว่าตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเจ้า “กล้วยด่าง” กันแล้ว เพราะเมื่อไม่นานมานี้กล้วยด่างได้ออกข่าวไปหลายช่อง และต้องเป็นที่ตกตะลึงกันเนื่องจากราคากล้วยด่างที่สูงจนทำใครหลายคนตาโต ด้วยราคา 1 ต้น ประมาณ 80,000 -700,000 บาท จนทำให้หลายคนเริ่มสงสัยและเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับกล้วยด่างกันยกใหญ่ วันนี้เราเลยมีข้อมูลเกี่ยวกับกล้วยด่างมาฝาก พร้อมชนิดสายพันธุ์ของกล้วยด่าง เผื่อใครจะใช้ช่องทางนี้ในการทำรายได้
กล้วยด่าง คืออะไร?
กล้วยด่าง หรืออีกชื่อเรียกทางพฤกษศาสตร์ Musa (ABB Group) จัดเป็นพืชในวงส์ MUSACEAE โดยลักษณะกล้วยด่างจะมีลำต้นสูงประมาณ 2.0 – 3.0 เมตร โดยหน่อที่เป็นด่างเมื่อลำต้นใหญ่ขึ้นจะมีสีออกเขียวอมชมพู ใบจะเป็นแผ่นใหญ่ ส่วนของโคนก้านจะมีใบสีชมพูอ่อน ปลีสีแดงคล้ำ ผลค่อนข้างเรียว เครือหนึ่งจะมี 4-5 หวี ในหวีหนึ่งก็จะมี 10-16 ผล ทรงโค้งงก ปลายสอบเรียว เปลือกกล้วยจะเป็นสีด่างขาวเขียวหรือออกอมชมพู ซึ่งผลกล้วยสามารถนำมารับประทานได้ตอนผลสุก รสชาติจะคล้ายกับกล้วยไข่ แต่จะมีรสเปรี้ยวอ่อนๆ
ชนิดของกล้วยด่าง
เนื่องจากกล้วยด่างเป็นพืชที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จึงทำให้กล้วยด่างมีพัฒนาการกลายเป็นหลากพันธุ์ ซึ่งการกลายพันธุ์นี้สามารถเป็นได้กับทุกสายพันธุ์กล้วยด่าง แต่สายพันธุ์ที่นิยมนำมาเพาะเลี้ยงจนเป็นนิยม มีด้วยกัน 4 ชนิด ดังนี้
กล้วยฟลอริด้าด่าง (Musa Florida Variegated)
กล้วยฟลอริด้าด่าง Musa Florida Variegated เป็นกล้วยด่างที่นิยมเพาะปลูกมากที่สุด โดยลักษณะของสายพันธุ์นี้จะคล้ายกับกล้วยปกติทั่ว แต่จะมีส่วนที่แตกต่างคือใบและลำต้นที่ลวดลายเป็นด่าง สีเหลืองสลับสีเขียวตามแนวเส้นใบ ความสูงประมาณ 3.0 – 6.0 เมตร ลำต้นจะเป็นแบบกาบใบซ้อนกันจนแน่น สามารถขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอและเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยสายพันธุ์นี้สามารถปลูกได้ทุกดิน แต่ชอบดินที่ระบายน้ำได้ดี ชอบแดดรำไร แต่ก็อยู่ที่แดดจัดได้เช่นกัน
กล้วยแดงอินโดด่าง (Musa Siam Ruby)
กล้วยด่างประเภทนี้ จะมีลักษณะเด่นใบสีแดงแซมสีเขียว และบางส่วนอาจเป็นสีขาวและเหลืองผสม โดยลายด่างจะไล่ไปตามแกนใบหรือเส้นใบ ลำต้นสูงประมาณ 3.0 เมตร ส่วนใบจะมีสีน้ำตาลแดงซ้อนทับจนแน่น โดยสายพันธุ์นี้จะขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด แยกหน่อและเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ สายพันธุ์นี้จะชอบดินที่ระบายน้ำได้ดี ชอบแดดรำไรและน้ำปานกลาง
กล้วยเทพพนมด่าง (Praying Hands Banana)
เป็นกล้วยด่างที่มีความสูงประมาณ 3.0 – 5.0 เมตร เป็นกล้วยที่รูปทรงสวยงาม โดยจุดเด่นของกล้วยด่างประเภทนี้จะมีลักษณะคล้ายการพนมมือ ใน 1 หวีจะออกผลประมาณ 15-17 ผล ซึ่งกล้วยประเภทนี้นิยมนำไปบูชาพระ หรือนำประดับ สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีแยกหน่อและเพาะเนื้อเยื่อ ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี แดดรำไร และน้ำปานกลาง
กล้วยตานีด่าง (Musa Balbisiana Colla Variegated)
ความสูงประมาณ 4.0 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 15 ซม. สีของกาบลำต้นด้านนอกสีเขียวเข้ม มีเส้นริ้วด่างขาว ใบด้านนอกสีน้ำตาลอมแดง ใบด้านในมีสีเหลืองซีด ปลายใบสีแดงอมชมพู เครือมีประมาณ 7-8 หวี ใน 1 หวีจะมี 8-10 ผล สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเนื้อเยื่อและแยกหน่อ